ทำไมต้องวัดความดันก่อนถอนฟัน และทำไมถึงมีข้อควรระวังในผู้ที่มีความดันโลหิตสูง
- Uniqcret
- Feb 19, 2024
- 1 min read
Updated: Feb 17
หลายคนอาจสงสัยว่า “ทำไมก่อนถอนฟัน คุณหมอถึงต้องวัดความดันโลหิต?” หรือ “หากเป็นความดันโลหิตสูง จะสามารถทำฟันได้หรือไม่?” บทความนี้จะช่วยอธิบายเหตุผลและความสำคัญให้เข้าใจได้ง่ายขึ้นค่ะ
1. ความสำคัญของการวัดความดันโลหิตก่อนทำฟัน
คัดกรองภาวะความดันโลหิตสูง:
คนไทยจำนวนมากไม่ทราบว่าตนเองเป็นความดันโลหิตสูง เพราะช่วงแรกอาจไม่มีอาการชัดเจน
การวัดความดันก่อนทำฟัน จึงช่วยค้นหาหรือยืนยันภาวะที่ซ่อนอยู่ เพื่อปรับการดูแลให้เหมาะสม
ป้องกันความเสี่ยงระหว่างการรักษา:
การถอนฟันหรือทำฟันบางอย่าง เช่น การผ่าฟันคุด การผ่าตัดเหงือก อาจทำให้เกิดความเครียดหรือวิตกกังวล ซึ่งกระตุ้นให้ความดันโลหิตสูงขึ้นได้
หากความดันสูงมากเกินไป อาจเสี่ยงต่อภาวะเลือดออกมาก หรืออาการหัวใจและหลอดเลือดอื่น ๆ ได้
ประเมินความปลอดภัยของขั้นตอนการรักษา:
ทันตแพทย์จำเป็นต้องทราบค่าวัดความดันในปัจจุบัน เพื่อวางแผนการรักษาและเลือกใช้ยาชา (โดยเฉพาะยาชาที่ผสมอะดรีนาลีน) ได้อย่างเหมาะสม
หากความดันโลหิตสูงมากเกินไป อาจต้องเลื่อนการรักษาไปก่อน เพื่อให้ผู้ป่วยได้ควบคุมความดันให้ดีขึ้น
2. ทำไมความดันโลหิตสูงถึง “อาจ” ห้ามหรือชะลอการถอนฟัน?
ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า “ไม่ใช่ผู้ป่วยความดันสูงทุกคนที่ห้ามทำฟัน” แต่เป็นผู้ป่วยที่ควบคุมความดันโลหิตได้ไม่ดีหรือมีระดับความดันสูงมาก (เช่น ค่าความดันตัวบน >160-180 mmHg หรือตัวล่าง >100-110 mmHg) ซึ่งอาจมีความเสี่ยง ดังนี้:
เสี่ยงต่อภาวะเลือดออกมาก (Bleeding)
ความดันที่สูงเกินไปจะทำให้หลอดเลือดบีบตัวหรือคลายตัวไม่ปกติ ขณะถอนฟันหรือผ่าตัดเหงือกจึงอาจมีเลือดออกมากกว่าปกติ
ผู้ป่วยหลายรายยังรับประทานยาละลายลิ่มเลือด (เช่น แอสไพริน หรือยาต้านเกล็ดเลือด) ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงเลือดออกซ้ำซ้อน
เสี่ยงหัวใจวายหรือเส้นเลือดในสมองแตก
หากความดันสูงอยู่แล้ว และเกิดความเครียดหรือตื่นเต้นในขณะทำฟัน อาจทำให้ความดันพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วจนเสี่ยงต่อโรคหัวใจหรือหลอดเลือดสมอง
แทรกซ้อนจากยาชาที่มีอะดรีนาลีน
ยาชาแบบผสมอะดรีนาลีนมีประโยชน์ในการห้ามเลือดและยืดเวลาชา แต่ในผู้ป่วยความดันสูงที่คุมไม่ดี อะดรีนาลีนอาจกระตุ้นให้ความดันสูงขึ้นไปอีก
การหายของแผลช้าลง
ความดันสูงเรื้อรัง ส่งผลให้ระบบไหลเวียนเลือดบริเวณที่ถอนฟันหรือผ่าตัดได้รับออกซิเจนและสารอาหารไม่เต็มที่ อาจทำให้แผลหายช้ากว่าคนทั่วไป
3. ข้อปฏิบัติสำหรับผู้ป่วยความดันโลหิตสูงที่ต้องการทำฟัน
ควบคุมความดันให้ดีอยู่เสมอ
รับประทานยาอย่างสม่ำเสมอตามที่แพทย์สั่ง
ดูแลสุขภาพทั่วไป เช่น งดสูบบุหรี่ ลดอาหารเค็ม ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
แจ้งทันตแพทย์เกี่ยวกับโรคประจำตัวและยาที่ทาน
หากคุณกำลังทานยาละลายลิ่มเลือดหรือยาต้านเกล็ดเลือด ควรแจ้งให้ทันตแพทย์ทราบ เพื่อวางแผนการห้ามเลือดที่เหมาะสม
หากมีอาการผิดปกติ เช่น ใจสั่น เจ็บหน้าอก หรือมีความดันขึ้นสูงก่อนถึงวันนัด ควรแจ้งคลินิกทันตกรรมล่วงหน้า
วัดความดันก่อน-หลังทำฟัน
ทันตแพทย์หลายท่านจะวัดความดันก่อนเริ่มทำหัตถการทุกครั้ง เพื่อประเมินความเสี่ยง
ในบางกรณีอาจต้องวัดระหว่างทำฟันด้วย หากหัตถการนั้นใช้เวลานานหรือมีความซับซ้อน
เลือกเวลานัดหมายที่เหมาะสม
ควรนัดทำฟันช่วงเช้าหรือเวลาที่คุณรู้สึกสบายตัว ไม่เหนื่อยหรือต้องรีบเร่งจากการทำงาน
หากคุณมีอาการกังวลมาก อาจปรึกษาทันตแพทย์เพื่อใช้วิธีลดความเครียด เช่น สบายนั่งฟังเพลง หรือการใช้ยาชาแบบพิเศษ/ยากล่อมประสาทอย่างอ่อน (ขึ้นกับดุลยพินิจทันตแพทย์)
4. สรุป
ทำไมต้องวัดความดัน? เพราะการทราบค่าความดันช่วยให้ทันตแพทย์วางแผนการรักษาได้อย่างปลอดภัย ลดความเสี่ยงทั้งภาวะเลือดออกมากและภาวะหัวใจหรือหลอดเลือดสมอง
คนเป็นความดันสูงห้ามทำฟันจริงไหม? ไม่ใช่ทุกคนจะห้าม แต่คนที่ความดันสูงมากหรือควบคุมไม่อยู่ ควรปรึกษาแพทย์และเลื่อนการทำฟันไปก่อน จนกว่าจะมีการควบคุมความดันให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัย
เพราะสุขภาพช่องปากสัมพันธ์กับสุขภาพร่างกายโดยรวม หากคุณมีความดันโลหิตสูง การพบคุณหมอฟันเป็นประจำจะช่วยป้องกันและลดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ได้ ขอให้ทุกท่านใส่ใจสุขภาพ พบทันตแพทย์สม่ำเสมอ และดูแลความดันโลหิตให้ดีนะคะ! Image Credit:
Comments